Copper Buffet New Normal !! บริการอุ่นใจ ปลอดภัย อร่อย คุ้มค่า!
บทความรีวิวนี้เป็นบทความจาก “Consumer Review” หรือ “CR” คือเป็นผู้ซื้อสินค้า หรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการใดๆ และไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

โปรโมชั่น Copper Buffet 999 บาท (แพคคู่ 1,988 บาท) และ Copper Buffet + เมนูพิเศษ 1–3 เมนู (1,590 / 1,690 และ 1,990 บาท) สามารถจองโต๊ะได้จากลิงค์: https://bit.ly/2N3ls6e (ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น Walk-in ไม่ได้ )
– เก็บความประทับใจที่ยากจะลืมเลื่อน แทบอยากกลับไปซ้ำในทันที กับบริการเหนือระดับ ควบคู่ความอร่อย ด้วยอาหารคุณภาพ คุ้มค่า และความปลอดภัย ตามแบบฉบับ Copper International Buffet!!-
ภพ เชื่อว่าหากกล่าวถึงร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติในใจกันแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้นร้าน “Copper International Buffet” กันแน่นๆ ใช่ไหมล่ะครับ (ภพ เองก็เช่นกัน) ซึ่งมักถูกนึกถึงเป็นร้านแรกๆ และยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างไม่ขาดปากว่าเป็นร้านบุฟเฟต์นานาชาติคุณภาพ ที่สามารถเปิดประสบการณ์ และ พลิกโฉมหน้าใหม่ในหลาย ๆ ด้านให้กับวงการบุฟเฟต์เมืองไทยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคุณภาพของอาหาร และการบริการที่เหนือชั้น แตกต่าง และล้ำหน้าไปมากกว่าที่อื่นๆ ซึ่ง ภพ เองเคยไปใช้บริการมาแล้ว ในช่วงเปิดร้านใหม่ช่วงแรกๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างนั้น และในครั้งนี้หลังจากผ่านเวลานั้นมาหลายปี ภพ ได้มีโอกาศไปใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งทางร้านได้มีการพัฒนามากขึ้นในรูปแบบ “All New Copper” ที่เขามีการขยับขยายร้าน และปรับอาหารเพิ่มเมนูใหม่ พร้อมให้บริการในแบบ “New Normal” ที่คุมเข้มสุดๆ หลังจากเจอโควิด-19 จนต้องปรับตัว มาดูกันว่าคุณภาพอาหาร เมนูต่างๆ จะเป็นอย่างไร การบริการจะสะดวกสบายน่าประทับใจขนาดไหน ความปลอดภัย และด้านการป้องกัน จะคุ้มค่าที่ไปใช้บริการหรือไม่ ตามมาอ่านในบทความนี้กันเลยครับ!
Copper International Buffet @ The Sense ปิ่นเกล้า

ที่ตั้ง : 71/50 The Sense ปิ่นเกล้า ชั้น 2, ถนน บรมราชชนนี แขวง อรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
ประเภทอาหาร : บุฟเฟ่ต์นานาชาติ
ตัวเลือกของบริการ : นั่งรับประทานที่ร้าน · รับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ · จัดส่งโดยไม่สัมผัส · สั่งกลับบ้าน
การเข้าถึง : ทางเข้าสำหรับเก้าอี้รถเข็น · ที่จอดรถที่เก้าอี้รถเข็นสามารถใช้ได้ · ที่นั่งสำหรับเก้าอี้รถเข็น · ลิฟท์สำหรับเก้าอี้รถเข็นห้องน้ำรองรับเก้าอี้รถเข็น
การชำระเงิน : เงินสด · e-Payment · บัตรเดบิต · บัตรเครดิต
✅ จองโต๊ะที่ลิงค์นี้ : https://bit.ly/2N3ls6e
(ไม่รับ Walk-in ทุกกรณี ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น)
วิธีเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า สามารถเดินทางโดย MRT มาลงที่สถานี “บางยี่ขัน” จากนั้นสามารถนั่งรถประจำทางสาย “ปอ. 28” หรือรถซูบารุสาย “ยันฮี เซ็นทรัลปิ่นฯ สายใต้ใหม่” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็จะถึง หรือจะขับรถมาก็มีที่จอดรถ
MAP ——–> https://g.page/copperbuffet?share
📞สอบถามเพิ่มเติม 092 281 1818
📩 www.facebook.com/copperbuffet
Line@ : @copperbuffet
สารบัญบทความ
- ทำความรู้จักกับ “Copper” International Buffet
- “Copper” International Buffet
- Copper Buffet’s Menu
- “บรรยากาศดีหรูหราไม่แพ้โรงแรม”
- “คุณ เกษม” ผู้จัดการร้านคนเก่งแห่ง Copper Buffet
- “ที่สุด” ของแนวคิด 4 ข้อหลักเพื่อการบริการลูกค้าทุกคน (COPPER BUFFET·วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2018)
- ราคา และโปรโมชั่น
- แพ็กเกจปกติ
- บัตรสมาชิก
- Hungry Hub Promotion
- การจองผ่าน Hungry Hub
- บรรยากาศ และการบริการในรูปแบบ New normal
- Copper Buffet New Normal มาตรการเหนือระดับเพิ่มความอุ่นใจ
- มาตรการก่อนใช้บริการ
- มาตรการขณะใช้บริการ
- มาตรการหลังใช้บริการ
- Copper Buffet New Normal มาตรการเหนือระดับเพิ่มความอุ่นใจ
- พาไปชิม
- เมนูพิเศษ
- ครัว และโซนอาหาร
- การเดินทาง (สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว)
- รอบ และเวลาในการใช้บริการ
- รอบเวลา สำหรับลูกค้าที่มาจำนวนคู่ (2, 4 ,6 ,8 ท่าน)
- รอบเวลา สำหรับลูกค้าที่มาจำนวนคี่ (1, 3 ,5 ,7, 9 ท่าน)
- My Score (In my opinion)
- The Food : อาหาร
- The Atmospheres : บรรยากาศ
- The Service : การบริการ
- The Worthiness : ความคุ้มค่า
ทำความรู้จักกับ “Copper” International Buffet
วันเดินทาง/ใช้บริการ : วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2563

“Copper” International Buffet
เป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของศูนย์การค้า The Sense ปิ่นเกล้า อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โดย MRT มาลงที่สถานี “บางยี่ขัน” จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถประจำทางสาย “ปอ. 28” หรือรถซูบารุสาย “ยันฮี เซ็นทรัลปิ่นฯ สายใต้ใหม่” เพียงประมาณ 5 นาทีก็จะถึง หรือจะขับรถมาก็มีที่จอดรถไว้ให้บริการ

โดยคำว่า “คอปเปอร์” (Copper) หมายถึง “ทองแดง” เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในด้านทนทานความร้อนสูง แข็งแกร่ง เมื่อถูกความร้อนจะไม่มีสารที่เป็นอันตรายออกมา ขณะเดียวกันก็มีความแวววาวงดงาม จึงถูกนำมาใช้ทำเครื่องครัว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในร้านอาหาร ด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ร้านที่จะใช้ทองแดงจึงเป็นร้านที่เห็นความสำคัญของคุณภาพอาหารและผู้บริโภคอย่างแท้จริง….



จึงเป็นที่มาของร้าน “คอปเปอร์” อินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟต์ (Copper : International Buffet) ร้านอาหารสไตล์บุฟเฟต์นานาชาติ ที่จะเปิดประสบการณ์และพลิกโฉมใหม่ในหลาย ๆ ด้านของวงการบุฟเฟต์เมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของอาหารและการบริการ “อร่อยคุ้มค่าแบบมีระดับ ที่คอปเปอร์บุฟเฟต์ เพราะสำหรับ #Copperbuffet ทุกอย่างต้องถูก Craft ให้ ‘ดีที่สุด’ เพราะเราเชื่อว่าลูกค้าของ Copper ทุกคนคู่ควร..



Copper Buffet’s Menu
ทางร้านมีเมนูอาหารบริการมากมายหลากหลายมากกว่า 100 เมนู นับตั้งแต่เมนูพิเศษอย่าง Miyagi Oyster หอยนางรมอิมพอร์ตจากญี่ปุ่น , French Foie Gras หรือสเต็กตับเป็กหนานุ่มตัดเลี่ยนด้วยซอสเสาวรส หรือสเต็กซี่โครงแกะหมักสไตล์เอเชีย และยังมีเมนูนานาชาติฟิวชั่นไม่อั้นอีกเพียบ ทั้งซีฟู้ดออนไอซ์, หอยนางรมจากสุราษฎร์ธานี, กุ้งแม่น้ำเผา, อาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมินำเข้า, อาหารตะวันตก ทั้งสปาเก็ตตี้วากิว ซุปทรัฟเฟิล พาสต้า, ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกวากิว สลัดผักสด สเต็กวากิว สเต็กแซลมอนต่างๆ , กระทั้งไปถึงอาหารไทย ปลาดอรี่นึ่งพริกมะนาว ขนมจีนแกงไก่ และขาหมูพะโล้ แต่ถ้ายังไม่มีอิ่มสะใจ ก็ให้ตบท้ายด้วยของหวานสไตล์ฝรั่งเศลแบบพรีเมี่ยม วัตถุดิบนำเข้าหลากเมนูอย่างครบครัน ไอศกรีมโฮมเมด และอื่นๆ พร้อมเครื่องดื่มไนโตร สุดพิเศษที่มีความละมุ่น นุ่มนวล แปลก และแตกต่าง ไม่เหมือนใคร





“บรรยากาศดีหรูหราไม่แพ้โรงแรม”
ในร้านอาหารมีพื้นที่กว้างขวาง แบ่งโซนตามประเภทอาหารอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจนมากกว่า 10 โซน เน้นครัวแบบเปิดให้เห็นเชฟกำลังทำอาหาร เรียกน้ำย่อยกัน ตกแต่งคงเอกลักษณ์ไว้อย่างชัดเจนด้วยเฟอร์นิเจอร์สีทองแดง ที่เพิ่มความคลาสสิกด้วยลังไม้ ที่นั่งมีทั้งแบบโซฟา และติดริมหน้าต่างให้เลือกสรร แบ่งโซนอาหารอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมเชฟที่คอยปรุงอาหารจานต่อจานประจำสเตชั่น









“คุณ เกษม” ผู้จัดการร้านคนเก่งแห่ง Copper Buffet
“คุณ เกษมสันต์ สัตยารักษ์” หรือ “คุณ เกษม” เป็นผู้จัดการทั่วไปของร้าน Copper Buffet เป็นผู้มากความสามารถ และมากประสบการณ์ ด้วยปรสบการณ์การดูแลร้านอาหารชั้นแนวหน้าของประเทศไทยมาแล้วหลากหลายแห่ง สร้างความสำเร็จทั้งชื่อเสียง และรายได้ทะลุเป้าให้กับเจ้าของร้านมาแล้วมากมาย มีประสบการณ์อยู่ในวงการร้านอาหารมามากกว่า 30 ปี ค่อยดูแลอยู่ จึงทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพของร้าน
ผมได้รับโจทย์การดูแลร้านอาหารแห่งนี้ (คอปเปอร์ บุฟเฟ่ต์) 3 ข้อ
ข้อแรก อาหารต้องมีคุณภาพ
ข้อสอง อยากเห็นภาพลูกค้ามาต่อคิวเยอะๆ
ข้อสุดท้าย บริหารงานอย่างโปร่งใส 3เงื่อนไขดังกล่าวจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านคอปเปอร์ บุฟเฟ่ต์ ซึ่งใช้งบลงทุนถึง 32 ล้าน ภายในร้านตกแต่งทันสมัย เน้นโชว์ไม้สีอ่อนตัด กับโครงสร้างสีเข้ม รวมทั้งสีของทองแดง ปรุงอาหารผัด ปิ้งย่าง ให้เห็นกันจะจะ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ในเดือนเมษายนปี 2559
คุณ เกษมสันต์ สัตยารักษ์ ผู้จัดการทั่วไปของร้าน ‘คอปเปอร์ บุฟเฟ่ต์’


ผมจะปฏิวัติวงการร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ให้เป็นลักษณะร้านอาหารแบบ Fine Dining เสิร์ฟเมนูที่มีคุณภาพสูง มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเมนู คอยให้คำแนะนำและนำเสนออาหารแต่ละจานที่ดีที่สุดให้กับผู้ทาน
คุณ เกษมสันต์ สัตยารักษ์ ผู้จัดการทั่วไปของร้าน ‘คอปเปอร์ บุฟเฟ่ต์’


“ที่สุด” ของแนวคิด 4 ข้อหลักเพื่อการบริการลูกค้าทุกคน (COPPER BUFFET·วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2018)
‘The Never-ending Journey of Taste’
ที่สุดของเมนูอาหารระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Wagyu Beef, Australian Lamb, Oyster, Truffle soup, Sushi, Cold cut, Organic salad และสุดยอดเมนูพรีเมี่ยมอีกมากมายที่เราคัดสรรมาให้ได้สัมผัสจากทั่วโลก อีกทั้งของหวานระดับพรีเมี่ยมที่คุณเลือกได้ เปรียบดั่งการเดินท่องเที่ยวไปในสวรรค์แห่งการทานอาหารที่คุณจะค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ที่นี่ไม่รู้จบ





‘Chef’s Craft Buffet’
ที่สุดความอร่อยจากฝีมือเชฟ ทุกจานที่เราเสิร์ฟผ่านการคิดค้น และปรุงอย่างพิถีพิถัน จากเชฟมากประสบการณ์ผู้คร่ำหวอดในวงการร้านอาหารมากว่า 20 ปี เพื่อการันตีถึงคุณภาพอาหาร เพื่อประสบการณ์ที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน




‘Casual Fine Dining’
ที่สุดของบรรยากาศการทานบุฟเฟ่ต์ ในรูปแบบ ‘Casual Fine Dining’ แห่งเดียวในไทย ที่เราเสิร์ฟความอร่อยในทุกจานอาหารด้วยการตกแต่งและบริการระดับ First Class ในบรรยากาศการตกแต่งร้านแบบ Luxury design เพื่อให้ลูกค้าได้รั[ประสบการณ์ทานอาหารที่ดีที่สุดในทุกสัมผัส ทั้ง รูป รส กลิ่น และเสียง ภายใต้คอนเซปต์ ‘อร่อยอย่างมีระดับ’ ได้อย่างสบายๆ สัมผัสได้ในแบบที่เป็นตัวของคุณเอง







‘The One and Only’
ที่สุดของความอร่อยคุ้มค่าที่ไม่มีใครกล้าเหมือน! เพราะความฟินทั้งหมดนี้ เสิร์ฟให้คุณแบบไม่อั้น ในราคาสุดคุ้มค่าแบบ Premium Craft Buffet เพื่อความ ‘ฟินที่สุด’ ให้แก่ลูกค้าของ #copperbuffet ทุกคน


ราคา และโปรโมชั่น
สำหรับราคา และโปรโมชั่นในกลับมาครั้งนี้ก็จัดมาให้ได้เลือกกันอย่างหลากหลายตั้งแต่ แบบปกติ 999 บาท (แพคคู่ 1,988 บาท) หรือโปรเมนูพิเศษ 1,590 / 1,690 และ 1,990 บาท เลือกรับเมนูพรีเมียมพิเศษตั้งแต่ 1–3 รายการ และไม่ต้องมีสมัครบัตรสมาชิกก็จองได้ โดยจองผ่าน Hungry Hub ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีมัดจำล่วงหน้า 50% ผ่าน e-Payment ได้จากลิงค์: https://bit.ly/2N3ls6e นี้ (ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น Walk-in ไม่ได้ )
แพ็กเกจปกติ #อร่อยแพ็กคู่ กับราคา 1,988 บาท สำหรับ 2 คน (คนละ 999 บาทสุทธิ)
โปรโมชั่นพิเศษที่ให้คุณลิ้มลองบุฟเฟ่ต์ไลน์นานาชาติสไตล์ A-La-Carte ได้แบบไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม
- โดยราคาที่นั่งคู่เท่านั้น ไม่มีราคาเด็ก นั่งโต๊ะละ 2 คน มีฉากกั้นและเว้นระยะห่างตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทุกการจองจะต้องชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 50%
หมายเหตุ: โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ร่วมกับสิทธิพิเศษของบัตรสมาชิก Copper Buffet ได้ด้วย


บัตรสมาชิก
บัตรสมาชิก Copper Buffet ในปี 2563 นั้น มีค่าสมัครอยู่ที่ 899 บาท เมื่อสมัครแล้วสามารถใช้ได้ทันที โดยมีสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรสมาชิก คือ

- ใครถือบัตรก็ใช้สิทธิ์ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบัตร เพียงแค่นำบัตรสมาชิกตัวจริงมา ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้แล้วนะครับ)
- สามารถใช้ลดราคาได้ทั้งโต๊ะ ลดได้ทุกท่าน ( ไม่รวมราคาเด็ก )
- ได้รับสิทธิ์พิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
- รับส่วนลด 10% เมื่อชำระด้วยเงินสด (899.-)
- รับส่วนลด 5% เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต (949.-)
- รับส่วนลดในเดือนเกิด 15% “ชำระด้วยเงินสดเท่านั้น” (849.-) เพียงแค่ยื่นบัตรสมาชิกคู่กับบัตรประชาชนตัวจริง โดยบัตรประชาชนจะเป็นของท่านใดก็ได้ในโต๊ะที่เกิดเดือนนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบัตร
- บัตรสมาชิก 1 ใบ ใช้ได้ 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น
- มีอายุใช้งาน 1 ปี นับจากวันที่สมัคร (หมดอายุแล้วสมัครใหม่)
- ในกรณีบัตรสูญหายหรือไม่ได้นำบัตรสมาชิกตัวจริงมา สามารถนำบัตรประชาชนที่ท่านเคยกรอกข้อมูลในใบสมัคร แสดงให้กับพนักงานต้อนรับ เพื่อทำการออกบัตรใหม่ โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่ 200 บาท
- บัตรสมาชิก Copper Buffet ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลด, โปรโมชั่น, ราคาเด็ก, รอบพิเศษ และรายการส่งเสริมการขายอื่นๆได้
- *สามารถเลือกรับ “ส่วนลด” หรือ “เมนูพิเศษ” อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

เมนูพิเศษสำหรับสมาชิก
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตร Copper Buffet หากไม่เลือกรับเป็น “ส่วนลด” จะสามารถเลือกรับเป็น “เมนูพิเศษ” 1 เมนูจาก 4 รายการ ทั้งโต๊ะ 1 คน 1 เมนูแทนได้ ดังนี้
- สเต็กซี่โครงแกะกับซอสแกะบัลซามิก (Australia Lamb Chop Steak with Balsamic lamb sauce) มูลค่า 699 บาท
- หอยเชลล์ย่างซอสไวน์ขาว (Seared Scallop with White Wine Sauce) มูลค่า 490 บาท
- ฟัวกราส์ผสมกับเนื้อวากิว (Foie Gras Wagyu Fusion Steak) มูลค่า 1,099 บาท
- ฟัวกราส์ (French Foie Gras with Raspberry & Passion fruit) มูลค่า 599 บาท

Hungry Hub Promotion
ลูกค้าที่จองร้าน Copper Buffet ผ่าน Hunghry Hub ใน Package A – C สามารถเลือกรับเมนูพิเศษต่างๆ ได้ฟรี ตามเงื่อนไขของแต่ละ Package ดังต่อไปนี้
Hungry Hub Exclusive Menus Pack A – 1,590 บาทสุทธิต่อคน (จ่ายเพิ่มคนละ 591 บาท)
บุฟเฟ่ต์ไลน์นานาชาติไม่อั้น 2 ชั่วโมงเต็ม + ได้รับ 1 เมนูพิเศษ
- เซ็ทโอนิกิริมันปูเกาหลี D.I.Y ในเซ็ทประกอบด้วย มันปูหิมะแดงเมืองซกโช 1 ถ้วย + ไข่ปลาแซลมอน + ไข่ปลาบิน + ยำสาหร่าย + แผ่นสาหร่าย + ข้าวสวย 1 ถ้วย (D.I.Y Onigiri Set : Sokcho Red Snow Crab paste + Ikura + Tobiko + Hiyashi Wakame + Nori +Sushi Rice)

Hungry Hub Exclusive Menus Pack B – 1,690 บาทสุทธิต่อคน (จ่ายเพิ่มคนละ 691 บาท)
บุฟเฟ่ต์ไลน์นานาชาติไม่อั้น 2 ชั่วโมงเต็ม + เลือก 2 เมนูพิเศษ เลือกได้ท่านละ 2 รายการ จาก 4 รายการ ดังนี้
- ล็อบสเตอร์เทลล์ (ฺBake & Torch Canadian Lobster Tail with Trio Cheese Velouté) มูลค่า 990 บาท
- สเต็กซี่โครงแกะกับซอสแกะบัลซามิก (Australia Lamb Chop Steak with Balsamic lamb sauce) มูลค่า 699 บาท
- หอยนางรมมิยางิ (Miyagi Oyster Ishinomaki Japan) มูลค่า 399 บาท
- ฟัวกราส์ (French Foie Gras with Raspberry & Passion fruit) มูลค่า 599 บาท

Hungry Hub Exclusive Menus Pack C – 1,990 บาทสุทธิต่อคน (จ่ายเพิ่มคนละ 991 บาท)
บุฟเฟ่ต์ไลน์นานาชาติไม่อั้น 2 ชั่วโมงเต็ม + เลือก 3 เมนูพิเศษ เลือกได้ท่านละ 3 รายการ จาก 7 รายการ ดังนี้
- เต้าหู้ออแกนิกสไตล์โฮมเมด เสิร์ฟพร้อมซอสฟัวกราส์ (Homemade Organic Tofu and Foie Gras Sauce) มูลค่า 790 บาท
- สเต็กซี่โครงแกะกับซอสแกะบัลซามิก (Australia Lamb Chop Steak with Balsamic lamb sauce) มูลค่า 699 บาท
- หอยเชลล์ย่างซอสไวน์ขาว (Seared Scallop with White Wine Sauce) มูลค่า 490 บาท
- ฟัวกราส์ผสมกับเนื้อวากิว (Foie Gras Wagyu Fusion Steak) มูลค่า 1,099 บาท
- หอยนางรมมิยางิ (Miyagi Oyster Ishinomaki Japan) มูลค่า 399 บาท
- ล็อบสเตอร์เทลล์ (ฺBake & Torch Canadian Lobster Tail with Trio Cheese Velouté) มูลค่า 990 บาท
- ฟัวกราส์ (French Foie Gras with Raspberry & Passion fruit) มูลค่า 599 บาท

เงื่อนไขการใช้บริการสำหรับ Package A – C
- สามารถเลือกรับเมนูพิเศษได้ตามแพ๊คเกจที่เลือก
- แพ๊คเกจเหล่านี้งดใช้ร่วมกับบัตรสมาชิก หรือใช้ส่วนลดราคา
- ลูกค้าทุกที่นั่งที่จองผ่านแอพพลิเคชัน Hungry Hub จะได้รับแพ๊คเกจโปรโมชั่นนี้เท่านั้น
- ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโปรโมชั่นอื่นๆ ได้
***หมายเหตุ: เนื่องจาก ศ.บ.ค ให้ลดจำนวนที่นั่งช่วงเวลานี้ ทางร้านมีความจำเป็นต้อง “งดราคาเด็กชั่วคราว” สำหรับทุกแพ็คเกจ และทุกโปรโมชั่น รวมถึงงดนำเครื่องดื่มแอลกอฮอทุกชนิดเข้ามาดื่มในร้าน และทางร้านไม่มีจำหน่ายนะครับ
การจองผ่าน Hungry Hub
[แจก] ส่วนลด Hungry Hub แอปพลิเคชัน สำหรับคนรักบุฟเฟ่ต์!
โปรโมชั่น Copper Buffet 999 บาท (แพคคู่ 1,988 บาท) และ Copper Buffet + เมนูพิเศษ 1–3 เมนู (1,590 / 1,690 และ 1,990 บาท) สามารถจองโต๊ะได้จากลิงค์: https://bit.ly/2N3ls6e (ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น Walk-in ไม่ได้ )
สามารถดูบทความ “[แจก] ส่วนลด Hungry Hub แอปพลิเคชัน สำหรับคนรักบุฟเฟ่ต์!”เพื่อทำการจองผ่าน Website และแอปพลิเคชั่นของ Hungry Hub ได้ตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมแจกโค้ดส่วนลดสำหรับใช้ในครั้งถัดไปได้ที่ลิ้งนี้ https://worldsdelight.com/2020/06/19/hungry-hub-discount-code/
https://worldsdelight.com/
บรรยากาศ และการบริการในรูปแบบ New normal
เฉดเช่นเดียวกันกับหลายๆ ธุระกิจร้านอาหาร Copper Buffet ต้องผจญกับวิกฤติจาก Covid-19 ทำให้ต้องปรับตัวมาให้บริการ Copper Delivery หรือ COPPER2GO ในช่วงปิดร้าน ซึ่งร้านบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่ไม่เคยคิดจะทำในช่วงเวลาปกติ จนประสบความสำเร็จไม่น้อย ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และเมื่อได้กลับมาเปิดให้บริการแบบ Dine IN อีกครั้ง ก็ยังต้องต้องปรับตัวในรูปแบบ New Normal ด้วยเช่นกัน ทำให้ทางร้านคิดคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยเพื่อบริการลูกค้าแบบจัดเต็ม จนเป็นตัวอย่าง กรณีศึกษา และผู้นำที่ดีให้แก่ร้านอาหารอื่นๆ อีกด้วย




ตัวอย่าง มาตรการความปลอดภัยเพื่อบริการลูกค้านั้นเริ่มเห็นตั้งแต่ก่อนถึงหน้าร้าน Copper Buffet เสียอีกนะ เพราะด้านหน้าศูนย์การค้าจะมีจุดรับบริการของ Copper Delivery หรือ COPPER2GO อยู่ด้วย โดยจะเห็นได้ว่าพนักงานที่ให้บริการจะแต่งกายป้องกัน ทั้งการใส่ หน้ากาก ถุงมือ และหมวกคลุมผมเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า มีช่องเว้นระยะห่างสำหรับพนักงานรับ-ส่งของ มีวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงทะเบียนผู้ส่งก่อนรับอาหารไป รวมถึงมีการบรรจุอาหารไว้อย่างมิดชิดด้วยถุงพลาสติกอีกหนึ่งชั้น




Copper Delivery หรือ COPPER2GO นั้นเป็นโปรโมชั่นที่ทำร่วมกับ Hungry Hub ในชื่อ Hungry@Home ในช่วงโควิด-19 ที่ร้านปิดให้บริการแบบนั่งกินที่ร้าน ซึ่งหากใครสนใจ สามารถสั่งได้จากลิ้ง https://bit.ly/2N3ls6e นี้เช่นกันครับ




สำหรับวันนี้เรามาใช้บริการแบบ Dine In หรือนั่งกินที่ร้านกัน เพราะฉะนั้นเราจะมุ่งหน้าไปที่ชั้น 2 ของเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า ซึ่ง ภพ มาก่อนเวลาใช้บริการพอควรเลยล่ะ เพื่อจะเก็บภาพบรรยากาศให้ชมกันก่อนจะเริ่มใช้บริการ ซึ่งเมื่อไปถึงที่ชั้น 2 จะเห็นตัวร้าน Copper Buffet จากภายนอกว่ามีขนาดร้านที่ใหญ่ไม่น้อยเลยที่เดียว เพราะพื้นที่ร้านกินพื้นที่ราวๆ 1 ใน 4 ของพื้นที่ชั้น 2 เลยล่ะ





Copper Buffet New Normal มาตรการเหนือระดับเพิ่มความอุ่นใจ
ซึ่งในช่วงเวลาก่อนการให้เข้าใช้บริการนั้น ทางร้านจะมีการจัดเตรียมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้ พื้นที่นั่ง เว้นระยะห่างทางสังคมตามสี่เหลี่ยมกรอบสีเหลืองที่ตีไว้ มีบริการแอลกอฮอล์ล้างมือแบบอัตโนมัติ พร้อมบริการ การประกาศให้ข้อมูล ให้คำแนะนำต่างๆ สร้างความพร้อมให้แก่ลูกค้า เพื่อประโยชน์ของลูกค้าตามมาตรการความปลอดภัยอย่าง #เข้มข้นทุกจุดเพื่อทุกคน ปรับรูปแบบการบริการให้เข้มงวดมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ
- มาตรการก่อนใช้บริการ
- มาตรการขณะใช้บริการ
- มาตรการหลังใช้บริการ
สามารถเข้าไปศึกษาอย่างละเอียดได้ที่ https://line.me/R/home/public/post?id=lsz5273c&postId=1158964690606031045







มาตรการก่อนใช้บริการ
สำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการ
ขั้นตอนนี้ก่อนมาที่ร้านเราต้องมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการผ่านระบบ Reservation Hungry Hub ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/2N3ls6e โดยเลือกวัน และรอบบริการ รวมทั้งจำนวนลูกค้าโดยมีรอบการจองดังนี้

รอบเวลา สำหรับลูกค้าที่มาจำนวนคู่ (2, 4 ,6 ,8 ท่าน)
วันจันทร์ – วันพุธ จะมี 3 รอบ คือ
- 12.00 – 14.00 น.
- 16.00 – 18.00 น.
- 18.30 – 20.30 น.
วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมี 4 รอบ คือ
- 10.00 – 12.00 น.
- 12.30 – 14.30 น.
- 16.00 – 18.00 น.
- 18.30 – 20.30 น
รอบเวลา สำหรับลูกค้าที่มาจำนวนคี่ (1, 3 ,5 ,7, 9 ท่าน)
วันจันทร์ – วันพุธ จะมี 1 รอบ คือ
- 12.00 – 14.00 น.
วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมี 1 รอบ คือ
- 10.00 – 12.00 น.

ซึ่งทุกการจองจะต้องชำระเงินมัดจำล่วงหน้าผ่าน Online Payment 50% เพื่อหลีกเลี่ยงและลดการสัมผัสการกระจายเชื้อ และอย่าลืมยืนยันการจองที่ Line@ : @copperbuffet ของร้านก่อนวันบริการ โดยลูกค้าจะได้รับหมายเลขการจองส่งมาทาง SMS และ Email ที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อใช้แจ้งเจ้าหน้าที่ในวันเข้ารับบริการ และมีการลงทะเบียนเพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัว โดยระบุชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการ ตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งเวลาที่ทำการจองจากระบบ Hungry Hub จะมีให้ลงทะเบียนเบื้องต้นอยู่แล้วนะครับ

ภพ แนะนำว่าให้เพื่อนๆ ที่ไปใช้บริการให้ไปก่อนเวลาสัก 30 นาที เพื่อรับคิว และหมายเลขโต๊ะด้วยนะครับ โดยรอบของ ภพ มีการจองที่นั่งไว้ในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2563 รอบเวลา 16.00 น. -18.00 น. ครับ ภพก็ต้องรอใช้บริการช่วง 15.30 น. ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวน้องๆ พนักงานจะเริ่มเรียกให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ เตรียมหมายการจอง และเข้าไปรับหมายเลขโต๊ะ หรือใครมีความประสงค์ในการสมัครสมาชิกก็ให้ทำในช่วงเวลานี้ครับ


มาตรการเมื่อมาถึงร้าน และการแจ้งหมายเลขการจองก่อนเข้าใช้บริการ
โดยเมื่อมาถึงที่ร้านแล้วทุกคนต้องอย่าลืมปฏิบัติตัว และเตรียมการแจ้งหมายเลขการจองก่อนเข้าใช้บริการ ดังนี้
- ลูกค้าทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในการเข้าใช้บริการ (กรณีไม่สวมหน้ากากอนามัย ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้บริการ)
- ลูกค้าต้องเข้าแถวโดยยืนเว้นระยะห่าง Social Distance ตามจุดที่กำหนดเสมอ
- ก่อนเข้าใช้บริการจะต้องผ่านจุดคัดกรอง เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ หากมีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ หรือมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้บริการและควรไปพบแพทย์ทันที และสังเกตอาการที่บ้าน
- ลูกค้าจะต้องล้างมือด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก่อนเข้าใช้บริการ
- หลังจากผ่านจุดคัดกรอง ลูกค้าส่งตัวแทน 1 ท่าน เพื่อแจ้งรับหมายเลขโต๊ะที่จุดพนักงานต้อนรับ
- หากลูกค้ามีบัตรสมาชิก ให้แสดงบัตรสมาชิกต่อพนักงานต้อนรับ เพื่อรับสิทธิ์
- หลังจากที่ได้รับหมายเลขโต๊ะแล้ว ลูกค้าต้องออกไปบริเวณด้านนอก เพื่อเข้าแถวโดยยืนเว้นระยะห่าง Social Distance ตามจุดที่กำหนด เพื่อรอเข้าใช้บริการ



ต้องอย่าลืมเตรียมหมายเลขการจองที่ได้รับจาก SMS หรือ Email ที่เราลงทะเบียนไว้ให้พร้อม เพื่อแจ้งกับพนักงานก็จะได้รับเบอร์โต๊ะของเรามา ซึ่งของ ภพ ไปกับพี่สาวที่สนิทครับได้โต๊ะเบอร์ 17 เป็นโต๊ะที่อยู่ซ้ายมือ (เลี้ยวจากประตูทางเข้า) ใกล้หน้าต่างที่มีป้ายร้านอยู่ และหากใครจะทำการสมัครสมาชิกก็ให้กรอกข้อมูลจำเป็นต่างๆ ลงไปในใบสมัครได้เลย น้องพนักงานก็จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปคีย์ลงในระบบ และจะนำบัตรสมาชิกมาให้เราระหว่างที่เราใช้บริการในร้านครับ




หลังจากที่ได้รับหมายเลขโต๊ะแล้ว ก็ให้กลับไปเข้าแถว โดยยืน หรือนั่งเว้นระยะห่าง Social Distance ตามจุดที่กำหนด ตามลำดับที่เข้ามาใช้บริการ และอย่าลืมว่าทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วยเหมือนเดิมนะครับ ซึ่งกฏเหล่านี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับน้องๆ พนักงานก็เช่นกัน ซึ่งน้องๆ พนักงานก็จะมีการสวมถุงมือ ผ้าปิดปาก เฟซชิลด์ หมวกคุมผม ป้องกันทุกระดับเท่าที่เป็นไปได้



ในด้านการบริการก้เห็นได้ตั้งแต่ระหว่างการรอ ซึ่งพนักงานให้บริการดีไม่น้อยเลย เป็นกันเอง พูดคุยสุภาพ ขออนุญาติทุกครั้งก่อนการให้บริการ มีการพูดขอบคุณ และแนะนำการใช้บริการสม่ำเสมอ แนะนำสถานที่ แนะนำวิธีการบริหารเวลาระหว่างใช้บริการ เพื่อประโยชร์สูงสุดของลูกค้า เช่น ให้ข้อมูลว่าอาหารแต่ละชนิดตั้งอยู่ที่ไหน เข้าไปในร้านแล้วให้สั่งอาหารก่อนค่อยเข้าไปนั่งที่เพื่อประหยัดเวลา เป็นต้น และที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ ไม่คาดคิด ไม่นึกมาก่อน คือความใส่ใจในการบริการของร้านที่นำเอาพัดลมทำความเย็นใส่น้ำแข็งมาตั้งให้ลูกค้าระหว่างนั่งรอเเพื่อคลายร้อนอีกด้วย



และเมื่อถึงรอบเวลาประกาศเข้าใช้บริการ เพื่อนๆ จะต้องเข้าแถวโดยยืนเว้นระยะห่าง Social Distance ตามจุดที่กำหนด มีการตีตารางให้ยืนรอ โดยต้องผ่านจุดคัดกรอง เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ และะฉีดพ่นล้างแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือด้วยเครื่องพ้นน้ำยาอัติโนมัติก่อนเข้าร้านอาหารอีกครั้งด้วย






และนี่เป็นบรรยากาศช่วงเวลาเข้าใช้บริการ คนยิ่งเยอะ ยิ่งครึกครื้น น่าตื่นเต้นมากครับ แถวยาวไปถึงสุดทางเดินของชั้น 2 เลยล่ะครับ ซึ่งเท่าที่ทราบมาร้าน Copper Buffet มีการจองมาใช้บริการเต็มทุกวัน ทุกรอบเลยทีเดียวล่ะ


มาตรการขณะใช้บริการ
มาตรการเมื่อเข้าใช้บริการภายในร้าน
- ทางร้านจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง 1 เมตร และมีฉากกั้นตามมาตรการที่ทางภาครัฐกำหนด และห้ามเคลื่อนย้ายโต๊ะหรือเก้าอี้โดยเด็ดขาด
- ทางร้านได้จัดเตรียมช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ และ กระดาษทิชชู่ จัดวางเป็นชุดให้ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการอบฆ่าเชื้อ
- หากท่านต้องการลุกจากที่นั่ง จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จะถอดได้ก็ต่อเมื่อนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่โต๊ะเท่านั้น
- งดสัมผัสอาหารหรือตักอาหารด้วยตนเอง และห้ามสัมผัสอุปกรณ์หรือภาชนะส่วนกลาง โดยทางร้านจะมีพนักงานเป็นผู้ให้บริการ
- ทางร้านมีน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อคุณภาพ Food Grade ให้บริการตามจุดต่างๆ ทางร้านแนะนำให้ลูกค้าล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย



รอบๆ บริเวณภายในร้านอาอหารจะเครื่องฉีดพ้นน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อคุณภาพ Food Grade อัตโนมัติ ซึ่งไม่เป็นอันตรายหากเผลอนำเข้าปาก ให้บริการตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งร้าน แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ได้ ขณะที่เราใช้บริการอยู่ครับ






ภายในร้านอาหารเองยังคงมีการเว้นระยะห่าง Social Distancing อย่างเคร่งครัด ไม่ใช่แค่กับที่นั่งบริการภายในร้านเท่านั้น แต่ในขณะที่มีการลุกเดินออกไปใช้บริการ โดยมีการทำทางเข้า ทางออก กำหนดจุดยืน ตีกรอบเหลือง ทำทางเดินเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ใช้บริการไปในทิศทางเดียวกัน








การจัดที่นั่งโต๊ะนั่งสำหรับการนั่งกินโต๊ะละ 2 คน เท่านั้น เว้นระยะห่างประมาณ 1 เมตร ตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด จากปกติให้บริการที่นั่งมกกว่า 300 ที่ต้องลดเหลือแค่ 160 ที่เท่านั้น ส่วนเรื่องความปลอดภัยอื่นๆ ก็คำนึงถึงเพราะมีฉากกั้นอะคลีลิค ที่ดูสะอาด แข็งแรง ทนทาน แถมคิดดถึงความสะดวก จึงมีที่แขวนหน้ากากไว้ให้ด้วย




นอกจากนี้อุปกรณ์การกินทุกอย่างทั้งช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ หลอด และ กระดาษทิชชู่ จะจัดวางเป็นชุดพร้อมผ่านการอบฆ่าเชื้อ และห่อในถุงพลาสติกเพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อโรค



มาตรการสั่งอาหารและรอรับอาหาร
เนื่องจากทางร้านงดให้บริการบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารที่ลูกค้าตักเอง หรือหยิบเอง แต่สามารถให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์จากรายการอาหารได้ โดยลูกค้าต้องเข้าแถวเพื่อสั่งอาหาร แล้วพนักงานจะนำไปเสิร์ฟให้ หรือบางเคาน์เตอร์ยืนรอรับได้เลย แต่มีข้อกำหนดในการใช้บริการ ดังนี้
- ต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนลุกจากที่นั่ง
- ก่อนลุกออกจากที่นั่ง ลูกค้าจะต้องจำหมายเลขโต๊ะ เพื่อแจ้งต่อพนักงานรับออเดอร์
- ลูกค้าต้องเข้าแถวโดยยืนเว้นระยะห่าง Social Distance ตามจุดที่กำหนด
- กรณีไปรับเครื่องดื่ม ลูกค้าจะต้องนำแก้วน้ำที่โต๊ะเพื่อเข้าแถว โดยนำแก้วน้ำใส่ในภาชนะสเตนเลส ที่จุดเค้าน์เตอร์บาร์ เพื่อรอน้ำแข็ง และเครื่องดื่ม
- ล้างมือทุกครั้งด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อระหว่างรอน้ำแข็ง หรือ เครื่องดื่ม
หมายเหตุ: ห้ามยืนรับประทานอาหารและเครื่องดื่มตามจุดต่างๆ ให้รับประทานที่โต๊ะของลูกค้าเท่านั้น


ในการลุกไปสั่งอาหาร เพื่อนๆ ต้องใส่หน้ากากหรือผ้าปอดปากไว้เสมอและในแต่ละครัว หรือโซนอาหาร จะต้องเว้นระยะห่าง Social Distancing ระหว่างลูกค้าด้วยกัน รวมถึงพนักงานแต่ละคนจะเป็นผู้รับออร์เดอร์อาหาร และตักอาหารเสิร์ฟให้ ที่จุดรับ และสั่งอาหารเพื่อลดการสัมผัส โดยพนักงานก็ต้องมีการป้องกันด้วยการใส่ผ้าปิดปาก การสวมถุงมือ ใส่เฟซชิลด์ หมวกคุมผมเพื่อความปลอดภัยทุกคน


ทางร้านพยายามลดการสัมผัสทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ แม้กระทั้งในแต่ละครัว หรือโซนอาหารก็ยังมีฉากอะคลีลิคกั้นตลอดแนวของครัวนั้นๆ มีเพียงช่องที่ใช้เสิร์ฟอาหารช่องเล็กๆ เพียงช่องเดียวเท่านั้นที่เชื่อมระหว่างเชฟ กับลูกค้าเอาไว้ คือขนาดบางทีพุดคุยกันยังไม่ค่อยได้ยินกันเลยนะ ค่อนข้างมิดชิดทีเดียว


หรือในส่วนของบาร์น้ำก็มีความใส่ใจ โดยให้เรานำแก้วน้ำของเราไปใส่ในในภาชนะสเตนเลส ที่หน้าบาร์น้ำ จากนั้นพนักงานจะกรอก และเติมน้ำแข็งให้เราเสร็จสับ จากนั้นให้เราหยิบไปเติมเครื่องดื่มต่อไป โดยแจ้งน้องพนักงานว่าต้องการเครื่องดื่มชนิดไหน น้องพนักงานก็จะเติมให้เครื่องดื่มชนิดนั้นให้ แล้วนำมาวางในถ้วยแสตนเลสส่งให้เราหยิบเหมือนเดิม



จะเห็นได้ว่าวิธีนี้พนักงานไม่ได้สัมผัสแก้วของเราเลยแม้แต่นิดเดียวเลย เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ละเอียด แต่ถูกนำมาขยาย ใส่ใจ คิดคำนึงถึง จนได้ผลลัพธ์ที่ดีออกมา



มาตรการหลังการใช้บริการ
มาตรการการชำระเงิน
- เพื่อหลีกเลี่ยงและลดการสัมผัสการกระจายเชื้อ การชำระเงิน ทางร้านจะรับเฉพาะ E-Payment หรือบัตรเครดิตเท่านั้น ไม่รับเงินสด เพื่อลดโอกาสในการปนเปื้อน ตามมาตรการภาครัฐ

มาตรการการดูแลความปลอดภัยของพนักงาน
มาตรการการนี้เป็นมาตรการสำหรับพนักงานทุกคนที่ร้าน Copper Buffet ที่ต้องปฏิบัติตามในช่วงเวลาตลอดการปฏิบัติหน้าที่
- พนักงานทุกคนก่อนเข้าปฏิบัติงาน ทั้งในช่วงเช้า และ ช่วงเย็น จะต้องเข้าจุดคัดกรอง โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคน หากมีอุณหภูมิสูงเกิน หรือ มีการไอจาม ทางร้านจะส่งพนักงานเข้าไปพบแพทย์ทันที
- พนักงานจะต้องบันทึกชื่อลงในสมุดบันทึกประวัติการตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้ง
- พนักงานต้องล้างมือด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ
- พนักงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หน้ากาก Face Shield ถุงมืออนามัย หมวก ให้เรียบร้อย
- พนักงานต้องพกขวดน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ตลอดเวลา
- พนักงานจะต้องปฏิบัติตามกฎสุขอนามัยตามที่ทางร้านกำหนดอย่างเคร่งครัด
- พนักงานจะต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง
มาตรการการทำความสะอาด
เป็นมาตรสุดท้าย เมื่อเราใช้บริการเสร็จ จะมีการเคลียร์โต๊ะ ทำความสะอาดด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ คุณภาพ Food grade ทั้งบนโต๊ะ ที่นั่ง ฉากกั้น และในจุดที่ทำความสะอาดได้ จัดโต๊ะใหม่ เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างสำหรับการบริการในรอบถัดไป
- ทางร้านจะปิดให้บริการทุก 2 ช.ม.เพื่อทำความสะอาด
- ทางเข้าหน้าร้านจะมีผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อวางบนพื้น
- พนักงานแม่บ้านทำความสะอาดด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพ Food Grade วันละ 6 รอบ และเมื่อลูกค้าออกจากร้าน (ระหว่างพักรอบครึ่งชั่วโมง)
- พนักงานแม่บ้านทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตามจุดต่างๆทั่วบริเวณร้าน บริเวณฉากกั้นบนโต๊ะอาหาร เก้าอี้ ขอบประตู โต๊ะ เก้าอี้ ทุกรอบเวลา เมื่อลูกค้าออกจากร้าน
- ในระหว่างการจัดเตรียม และทำความสะอาดทาวร้านจะห้ามคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าบริเวณร้านเด็ดขาด

จะเห็นได้ว่ามาตรการทั้งหมดนี้ Copper Buffet จัดทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าทุกท่านจริงๆ
พาไปชิม
ถึงเวลาที่ทุกคนรอค่อยกับการพาไปชิมกันแล้วครับ อย่างที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นว่า Copper Buffet นั้นมีเมนูอาหารให้บริการมากกว่า 100 เมนูไม่ว่าจะเป็น ให้อิ่มกับแบบไม่อั้น อีกทั้งยังมีเมนูพิเศษต่างๆ ตามสิทธิ์เฉพาะสำหรับสมาชิก และโปรโมชั่นแพ๊คเกจของ Hungry Hub อีกด้วย



เมนูพิเศษ
สำหรับเมนูพิเศษในครั้งนี้ ภพ ใช้สิทธิพิเศษจากบัตรสมาชิก Copper Buffet ซึ่งมีเมนูให้เลือก 1 เมนู จาก 4 รายการ โดย ภพ ไปกับเพื่อนจึงได้เลือกเมนู 2 เมนูคือ ฟัวกราส์ผสมกับเนื้อวากิว (Foie Gras Wagyu Fusion Steak)
ฟัวกราส์ผสมกับเนื้อวากิว (Foie Gras Wagyu Fusion Steak) – เมนูนี้ของ ภพ เอง เนื้อวากิวชิ้นหนาเป็นนิ้ว ย่างสุกปานกลาง ท้อปด้วยฟัวกราส์ที่ย่างมาได้อย่างพอดี ไม่มีกลิ่นสาป ไม่มันเยิ้ม ชิ้นหนาแบบชิ้นสเต๊กสวยงาม เสิร์ฟพร้อมซอสพิเศษ

เวลากินให้หั่นเนื้อ และตับเป็ดลงไปพร้อมกัน แล้วกินคู่กันไปทั้งคำเลยครับ รสสัมผัสแรกจะได้ความหอมของเนื้อวัวที่หวานฉ่ำเล็กน้อย และรสสัมผัสนุ่มแบบเนื้อสเต็กที่เต็มปากเต็มคำ ตัดกับความนุ่มเด้งคล้ายวุ้นของตับเป็ด จากนั้นเมื่อเคี้ยวไปเรื่อยๆ จะมีความฉ่ำหวานของเนื้อวัวออกมาเรื่อยๆ ผสมกับกลิ่นหอมจางๆ และความเนียนเป็นครีมของเนื้อฟัวกราส์


หอยเชลล์ย่างซอสไวน์ขาว (Seared Scallop with White Wine Sauce) – เมนูเป็นเมนูของพี่สาวที่ไปด้วยกันนะครับ เห็นนางบอกว่า อร่อยใช้ได้เลย หอยเชลล์ตัวใหญ่ เนื้อเน้นๆ เป็นไซต์ที่ใช้เสิร์ฟเป็นชิ้นสเต็ก สีขาวนวล ผัดกับซอสไวน์ขาว เปรี้ยวนิดๆ ปรุงให้พอดี เพื่อคงรสสัมผัส นุ่ม เด้งของหอยไว้

โดยพี่สาวบอกให้ให้ค่อยๆ กินเนื้อหอยเชลล์พร้อมซอสไวน์ขาวเพื่อจะได้ลิ้มรสได้เต็มที่ เป็นการกินที่ละเมียดละไม ได้อรรถรสดี


ครัว และโซนอาหาร
สำหรับเมนูอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถกินได้แบบไม่อั้น จะแบ่งสัดส่วนไปตามครัว และโซนอาหารในจุดต่างๆ ของร้านอาหาร และยังให้บริการในรูปแบบบริการแบบ New Normal ดังนี้
- ครัวซีฟู้ดออนไอซ์ (Seafood On Ice Station)
- ครัวของทอด (Deep Fried Station)
- ครัวซุปเห็ดทรัฟเฟิล (Truffle Soup Station)
- ครัวพาสต้า สปาเก็ตตี้ (Spaghetti Station)
- ครัวส้มตำสเด็ด (Somtum Station)
- ครัวญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ และอื่นๆ (Sushi & Sashimi Station)
- ครัวสลัด (Salad Station)
- ครัวสเต็ก และเมนูย่าง (Grill and Steak Station)
- ครัวก๋วยเตี๋ยว (Noodle Station)
- ครัวต้มยำ (Tom Yum Station)
- ครัวอาหารไทยจานร้อน (Authentic Thai Hot Dish Station)
- ครัวของหวาน (Dessert Station)
- บาร์ไอศกรีม (Ice Cream Bar)
- คอปเปอร์ ไนโตร บาร์ (Copper Nitro Bar)
เรามาไล่ดู ไล่ชิมกัน ทีละครัว ทีละโซนอาหารว่ามีอะไรกันบ้าง ตามมาเลยครับ


ครัวซีฟู้ดออนไอซ์ (Seafood On Ice Station)

มีเมนูบริการดังนี้
- หอยนางรมสุราษฎร์ธานี (Surat Thani – Thai Fresh Oyster)
- เสิร์ฟครั้งละ 2 ตัว
- หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (New zealand-Mussel)
- เสิร์ฟครั้งละ 3 ตัว
- กุ้งขาว (Shrimp)
- เสิร์ฟครั้งละ 3 ตัว




หอยนางรมสุราษฎร์ธานี (Surat Thani – Thai Fresh Oyster) – เสิร์ฟครั้งละ 2 ตัว สามารถรับได้ที่ครัวซีฟู้ดออนไอซ์ได้เลย โดยน้องๆ พนักงานจะแกะเตรียมไว้ให้ พร้อมเสิร์ฟบนจาน รวมกับเครื่องเคียง และน้ำจิ้มซีฟู้ด จากการชิมเนื้อหอย คือเด้งสุด สดสุด เพราะยังสามารถสัมผัสได้ถึงเอ็นของหอยนางรมที่ยังเป็นขั้วๆ แน่นๆ ได้อยู่เลย สดที่สุดเท่าที่เคยกินบุฟเฟ่ต์นานาชาติหลายๆ ที่ (ณ ปัจจุบัน) หวาน ฉ่ำ หนึบ เด้ง จะกินเย็นๆ สดๆ เปล่าๆ ก็ได้ หรือจะกินกับเครื่องเคียง และน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ดีไปอีกแบบ ส่วนซีฟู้ดออนไอซ์ตัวอื่นๆ ทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้วขาวก็สดใช้ได้เช่นกัน แต่หอยนางรมจากสุราษฎร์ธานีคือนางเอกของครัวนี้เลยครับ




ครัวของทอด (Deep Fried Station)

มีเมนูบริการดังนี้
- กุ้งเทมปุระ (Prawn Tempura)
- กุ้งทอดครีมชีส (Deep Fried Shrimp with cream cheese)
- *ปลากะพงทอดน้ำปลา (Deep Fried Sae Bass with Fish Sauce)
*หมายเหตุ โดยปกติบุฟเฟต์นานาชาติหลายๆ ที่มีมนูสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในรอบวัน แต่สำหรับที่ Copper จะมีเพียงโซนของทอด 1 เมนูที่มีการปรับเปลี่ยนในวันแต่ละวันในรอบอาทิตย์ นั้นคือ ปลากะพงทอดน้ำปลา (Deep Fried Sae Bass with Fish Sauce) จะสลับกับ แก้มปลาแซลม่อนย่าง (Salmon Kama Shio Yaki)






ทอดสดใหม่ตลอด เติมใหม่สม่ำเสมอ และทอดครั้งละไม่เยอะเพื่อไม่ให้อาหารเก่าเพราะปกติของทอดจะมีอายุอาหารค่อยข้างสั้น สำหรับการสั่งอาหารที่ครัวนี้นั้น สามารถสั่งตามหมายเลขเบอร์ 1-4 ตามรูปแบบ และจำนวนที่ต้องการกับน้องพนักงานได้เลย ของ ภพ สั่งหมายเลข 4 มา นั้นคือรวมทั้ง 3 เมนูครับ




- กุ้งเทมปุระ – รสสัมผัสที่ละเอียด กรอบ ฟู เบา ไม่อมน้ำ ไม่มีกลิ่นหืน แป้งดูเหมือนเยอะ แต่ไม่เยอะมากเกินไป กรอบจากรอบนอกก่อน แล้วจะสัมผัสความสดนุ่มของกุ้งจากภายในอีกที รสสัมผัสดี สดใหม่ จากกรรมวิธีการปรุง
- กุ้งครีมชีส – มีรสสัมผัสที่กรอบ แตกต่างจากกุ้งเทมปุระก่อนหน้า คือพอกัดลงไปจะกรอบแล้วตามด้วยความเนียน ฉ่ำ ของครีมชีส กระจายออกมา ไม่เลี่ยน ทอดกำลังดี มีตินิดเดียวคือไม่ความรู้สึก และไม่มีรสสัมผัส หรือกลิ่นของกุ้งเลย เหมือนกินครีมชีสทอดแบบอ่อนๆ (เพราะครีมชีสก็ไม่ได้มีรส และกลิ่นเด่นชัดออกมาเช่นกัน)
- ปลากะพงทอดน้ำปลา – ปลากะพงทอดมาอย่างดี รสสัมผัสไม่ได้กรอบมาก เพราะไม่ได้เคลือบแป้งมาเยอะ แต่แน่นด้วยเนื้อของปลากะพงที่สด สุกกำลังดี แล้วราดมาด้วยซอสน้ำปลาที่ออกหนาวเค็มเบาๆ พร้อมกลิ่นน้ำปลาเล็กน้อยที่คุ้นเคย


ครัวซุปเห็ดทรัฟเฟิล (Truffle Soup Station)
มาถึง Copper Buffet ทั้งที ต้องห้ามพลาดต้องกินให้ได้นั้นคือเมนู “ซุปเห็ดทรัฟเฟิ้ลในตำนาน” (Truffle Soup) – ซุปครีม Signature ของห้องอาหาร Copper Buffet ที่ใครๆ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อย” ทั้งลูกค้า และคนวงการบล๊อกเกอร์



ซึ่งเป็นเรื่องจริงเลยครับ ซุปมีความอร่อยที่แตกต่างจากที่อื่นๆ มวลชุปครีมหนักแน่น แต่มีความนุ่ม ละมุน มีกลิ่นหอมจากน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลเบาๆ ที่ลงตัว และกลมกล่อม ไม่ได้มีกลิ่น และรสสัมผัสของน้ำมันเห็ดที่รุนแรงจึงเลี่ยน มันปาก เรียกได้กลมกล่อม และลงตัว
สามารถกินคู่กับ “ขนมปังกระเทียม” (Garlic Bread) – ที่อบใหม่ๆ ตลอด อบครั้งละน้อยๆ และไม่เยอะ จึงมั่นใจในความสดใหม่ หอม กรอบเบาๆ สามารถกินเปล่าๆ ได้เลย






แถมยังสามารถ Mix & Match ได้ตามใจ ซึ่งภพลองเอาซุปเห็ดทรัฟเฟิลมาจุ่มกินคู่ กับกุ้งเทมปุระตามบล๊อกเกอร์ชื่อดังท่านนึง “คุณบุ๊ง” – เจ้าของเพจ Close To Heaven Blog ซึ่งอร่อยมาก เข้ากันอย่างไม่หน้าเชื่อ ควรลองอย่างยิ่ง!






ครัวพาสต้า สปาเก็ตตี้ (Spaghetti Station)

มีเมนูบริการดังนี้
- สปาเก็ตตี้ซอสแกะ (Spaghetti Lamb Ragout)
- สปาเก็ตตี้คาโบนารา (Spaghetti Carbonara)
- สปาเก็ตตี้กระเทียมเบคอน (Spaghetti Bacon White Wine)
- สปาเก็ตตี้เนื้อวากิว (Spaghetti Wagyu White Wine)
- สปาเก็ตตี้เส้นดำซีฟู้ด (Spaghetti Seafood)
- ชีสวิลพาสต้า (Angle Hair Truffle)
- ข้าวกะเพราเนื้อวากิวไข่ออนเซน (Stir Fried Wagyu with Spicy Holy Basil and Onsen Tamago)
เมนูที่ครัวนี้มีหลากหลายไม่น้อย เน้นเมนูพาสต้า สปาเก็ตตี้ปรุงสดใหม่เข้มข้น หอม มัน ทุกจาน


อย่าง สปาเก็ตตี้คาโบนารา (Spaghetti Carbonara) – มีความเข้มข้น และหอมคล้ายๆ ชีสวิล แต่จะมีรสสัมผัสความหนักกว่า เพราะเป็นเส้นสปาเก็ตตี้ และรสชาติจะมีความจัดจ้าน และกลิ่นจากเบคอนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งเบคอนเองก็อร่อนใช้ได้ ไม่ได้เค็ม ไม่มัน ไม่เกรียมเกินไป



สปาเก็ตตี้เนื้อวากิว (Spaghetti Wagyu White Wine) – ผัด และปรุงรสชาติลงตัว เส้นสปาก็สุกกำลังดี ผัดเข้าเส้น ไม่ได้จัดจ้านเกินไป ไม่มันเลียน หอมกระเทียม และพริกทอด เนื้อวากิวหั่นชิ้นเต๋าพอดีคำ หนา นุ่ม สุกกำลังดี ไม่มีกลิ่นสาป



สปาเก็ตตี้เส้นดำซีฟู้ด (Spaghetti Seafood) – ใช้เส้นสปาเก็ตตี้หมึกดำต้มสุก และปรุงกำลังดีเช่นเดียวกับเมนูพาสต้าที่ผ่านมา หอมน้ำมันมะกอกอ่อนๆ แต่ไม่มันเยิ้ม ไม่เลี่ยน ผัดแห้งกำลังดี เครื่องทะเลพอควร เมื่อเทียบปริมาณเส้น ทั้งกุ้ง และหอย สด เด้ง และสุกกำลังดี


ชีสวิลพาสต้า (Angle Hair Truffle) – เมนูนี้คนชอบพาสต้า ครีม และชีส (อย่าง ภพ) ต้องห้ามพลาด ทางร้านใช้เส้น Angel hair ที่เรียวเล็ก และมีคุณสมบัติในการซึมซับรสชาติของซอสเป็นพิเศษ มาต้มให้สุกกำลังดี ปรุงเข้ากับซอสครีมร้อนๆ ที่มีความเข้มข้น แล้วนำลงไปผสมกับชีสในก้อนพาเมซานชีสขนาดใหญ่แบบจัดเต็ม จนได้รสชาติ และรสสัมผัสที่พอดี หอมลงตัว เวลากินแล้วจะรู้สึกถึงความเข้มข้นของครีม และชีส แต่เบาเพราะเส้นที่เรียวเล็กของ Angel hair อย่างมีเอกลักษณ์








นอกจากเมนูพาสต้า และสปาเก็ตตี้จะมีเมนูที่แปลกแยกออกมาคือ ข้าวกะเพราเนื้อวากิวไข่ออนเซน (Stir Fried Wagyu with Spicy Holy Basil and Onsen Tamago) – ที่รู้สึกโดดเด่น และเตะตาสุดสำหรับเมนูนี้คือ ไข่ออนเซ็นที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน เพราะมันทั้งดูใส เป็นมันว้าว นุ่ม และดึ๋งๆ ยั่วให้น่าตักกินมากๆ มาพร้อมพระเอกผัดกะเพราะเนื้อวากิวที่ปรุงได้สุกกำลังดี นุ่ม รสสัมผัสดีจากการที่สไลด์มาเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และนางเอกอย่างไข่ออนเซ็นเยิ้มๆ ด้านรสขาติโดยรวมคือดี หอมกระเทียม ซอสปรุงรส แต่ขาดความเผ็ด และความหอมของกะเพราไปมากพอควรเลยครับ (เมนูนี้เลยแอบผิดหวังเล็กน้อย)



ครัวส้มตำสเด็ด (Somtum Station)

มีเมนูบริการดังนี้
- ส้มตำไทย (Thai Papaya Salad)
- ส้มตำปู (Fresh River Crab Papaya Salad)
- ส้มตำปู ปลาร้า (Papaya Salad with Pickled Fish Sauce)
- ส้มตำไทย ไข่เค็ม (Thai Papaya Salad with Salted Egg)
- ส้มตำไทย ปู (Thai Papaya Salad with Crab)
- ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ (River Prawn Pad-Thai)
ที่ครัวนี้จะเน้นส้มตำประเภทต่างๆ รวมถึงมีผัดไทยกุ้งแม่น้ำเป็นเมนูแนะนำด้วย (ซึ่ง ภพ ลืมสั่งมาชิมครับ ต้องขออภัยด้วย)

สำหรับส้มตำขอพูดเป็นภาพรวม คือรวมๆ แล้วโอเคด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ มะละกอกรอบ นุ่ม ตำพอดี ไม่ช้ำ รสชาติโอเค (สั่งโดยไม่ได้คอนเม้นเพิ่มเติมอะไรเป็นพิเศษ)
ได้ชิมตำปู และปลาร้า รสชาติติดหวานชัดเจนพอควร และตำปลาร้ารสชาติเค็มโดด แต่โดยส่วนตัวส้มตำเป็นเมนูที่ปรุงใหม่ๆ จึงสามารถให้น้องๆ พนักงานปรับรสตามต้องการได้


ครัวญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ และอื่นๆ (Sushi & Sashimi Station)

สำหรับซูชิมีเมนูบริการดังนี้
- ซูชิแซลมอน (Salmon Original Sushi)
- ซูชิแซลมอนไซเกียว (Salmon Saikyo Sushi)
- แซลมอนซอสสไปซี่ (Salmon Spicy Sauce)
- ซูชิกุ้งแดงญี่ปุ่นเบิร์นไฟ (Akaebi Aburi Sushi)
- ชูชิปลาช่อนทะเล (Sugi Yuzu Ponzu Aburi Sushi)
- ซูชิเนื้อวากิวออสเตรเลีย (Wagyu Sushi)
หมายเหตุ แต่หากต้องการสั่งซูชิต้องไปสั่งที่ครัวสปาเก็ตตี้นะครับ

สำหรับซูชิหน้าต่างๆ โดยรวมแล้ว ตัวข้าวปั้นปั้นมาแน่น และติดกันดี ปริมาณข้าวไม่ได้เยอะ หรือก้อนใหญ่เกินไป ตัวข้าวมีการปรุงให้มีรสชาติเล็กน้อย ตัวหน้าต่างๆ ของซูชิสด ใหม่ ทั้งปลาแซลมอน กุ้งแดง และปลาช่อนทะเล มีรสสัมผัส กลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความใกล้เคียงกันด้วยเช่นกัน


ซูชิเนื้อวากิวออสเตรเลีย (Wagyu Sushi) – ชูซิ Signature ของร้าน Copper Buffet อีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ ด้วยการเสิร์ฟมาในจานดำขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมข้าวปั่นซูชิขนาดเล็กจิ๋ว เล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ขัดกับชิ้นเนื้อวากิวสไลด์บางแผ่นกว้างเต็มจาน เบิร์นไฟหอมๆ ย่างสุกกำลังดี เพิ่มสีสัน เพิ่มกลิ่นหอม ท้อปด้วยไข่กุ้งเพิ่มรสสัมผัส ตบท้ายด้วยราดซอสสูตรพิเศษ



เวลาคีบขึ้นมา จะใหญ่เท่าหน้าเลยล่ะ แต่แนะนำให้กินกินได้ในคำเดียวจะฟินมากๆ เพราะรสชาติอร่อยลงตัวไม่น้อย ตัวเนื้อวากิวหอม นุ่ม ชุ่ม ฉ่ำ หวานอ่อนๆ จากซอส ตัดกับรสสัมผัสของข้าว และไข่กุ้งที่แตกในปาก


