World's Delight

เปิดประสบการณ์บุฟเฟ่ต์เทมปุระพรีเมียมแห่งแรกในไทย – HISHOU (ฮิโช) @ Hotel Nikko Bangkok

– ทอดสดๆ ทอดกันใหม่ๆ กับวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น เชฟคัดความอร่อยมาให้ไม่อั้น กับเทมปุระบุฟเฟ่ต์!!! –


สวัสดีครับ ใครชอบทานเมนูของทอดบ้างครับ นั้น ภพ คิดว่าหลายๆ คนชอบทานแน่นอน และต้องรู้จักเมนูของทอดอย่าง “เทมปุระ” จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม ซึ่งวันนี้ ภพ จะพาไปทานเทมปุระที่แตกต่างไปจากทั่วๆ ไปนั้นคือ บุฟเฟ่ต์เทมปุระตามสั่งที่ทานได้ไม่อั้น ซึ่งใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม และยังมีหลากหลายทั้งเนื้อปลาต่างๆ ทะเลต่างๆ ผักต่างๆ หรือแม้กระทั้งชีส ขอเชิญพบกับ TEMPURA ORDER BUFFET – HISHOU โรงแรม Hotel Nikko Bangkok ครับผม!


HISHOU @ Hotel Nikko Bangkok

42 Ram Buttri, Banglampu, เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

วิธีเดินทาง : สามารถเดินด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานนี ทองหล่อ ทางออก 3 แล้วเดินตรงเข้ามาที่สุขุมวิทซอย 55 (ทองหล่อ) ประมาณ 200 เมตร เพียงไม่กี่นาที โรงแรมจะอยู่ซ้ายมือครับ

MAP ——–> https://goo.gl/maps/FzQWFSyXWekUqKxb6

📞สอบถามเพิ่มเติม 02 080 2111

📩 https://www.facebook.com/hotelnikkobangkok/http://www.nikkobangkok.com/


ภาพรวมของ ” TEMPURA ORDER BUFFET “

วันเดินทาง/ใช้บริการ : วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562


กลับมาอีกครั้งกับโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 นี่ครับผม

ที่ ภพ ได้กล่าวเกี่ยวกับโรงแรม และรีวิวมื้อค่ำเน้นคุณภาพ A La Carte Buffet Dinner ไว้เมื่อครั้งก่อน

ที่ห้องอาหารนานาชาติ The Oasis all day dining ชั้น 6 ของโรงแรมครับ

สามารถตามไปอ่านได้ที่นี้เลยครับผม —-> บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำเน้นคุณภาพกับโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น

วันนี้จึงขออุญาตินำแค่ภาพบรรยากาศของโรงแรมในช่วงกลางคืน

และมุมอื่นๆ มาให้ชมกันครับผม

ส่วนคืนนี้ห้องอาหารที่เราจะมาใช้บริการก็ไม่ต้องไปไหนไกล

เพราะอยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรมนี่เองครับ

เชิญพบกับห้องอาหาร Hishou หรือ ฮิโช ห้องอาหารญี่ปุ่นของโรงแรมครับผม

เป็นห้องอาหารที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งแขกชาวญี่ปุ่น หรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยก็ยังชื่นชอบมากๆ ครับ

ซึ่งเป็นห้องอาหารแบบ All day dining คือบริการทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น

บริการด้วยเมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำหรับทั้งหมด

มีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ และA La Carte

ซึ่งบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าส่วนใหญ่ก็เป็นแขกที่พักที่โรงแรมครับ

ด้านบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันได้ยินมาว่าเป็นที่นิยมจากแม่บ้านชาวญี่ปุ่นมากๆ ด้วยล่ะ ไว้มีโอกาศต้องมาลองบ้างซะแล้ว

แต่วันนี้เราจะจัดบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำสุดพิเศษกันครับผม ไว้มาติดตามชมกัน

ซึ่งเกี่ยวกับห้องอาหารนั้นตกแต่งได้สวยมากๆ น่าใช้บริการ

ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยลักณะของไม้ไผ่ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน

และมีส่วนของบาร์ให้ใช้บริการด้วย

บรรยากาศจึงดีมากๆ เหมือนอยู่ในสวนไม้ไผ่เลยล่ะครับ

และนอกจากโต๊ะที่มีให้บริการรอบๆ ห้องอาหารแล้ว

ยังมีห้อง VIP จำกัดสูงสุดห้องละ 8 คน อยู่ 2 ห้องให้บริการด้วยครับ

และมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำห้องละ 4000 บาทต่อห้องครับผม

สำหรับห้อง VIP ควรสำรองที่นั่งล่วงหน้าก็ดีครับผม

ส่วนใครอยากใช้บริการใกล้ชิดเชฟตอนทำอาหาร

ก็สามารถมานั่งที่มุมพิเศษ Chef Table นี้ได้เลยครับ

ซึ่งเป็นมุมไฮไลท์สำหรับบริการบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำในวันนี้กันเลยครับผม

เพราะ “TEMPURA ORDER BUFFET” คือบุฟเฟ่ต์เทมปุระแห่งแรกในประเทศไทย เลยครับผม

เป็นบุฟเฟ่ต์เทมปุระที่จะทอดกันใหม่ๆ สดๆ ตาม ออเดอร์ของแขกเลยล่ะครับ

พอทอดเสร็จเชฟก็จะเสิร์ฟให้สดๆ ใหม่ๆ ที่จานหินตรงนี้เลย

โดยมีเครื่องทอดที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ชื่อว่า Dr. Fire

สามารถทอดได้โดยไม่อมน้ำมัน กรอบ และน้ำมันไม่กระเด็น มีเครื่องควบคุมอุณหภูมิในการทอดด้วย

ซึ่ง TEMPURA ORDER BUFFET นั้นสามารถสั่งรายการอาหารต่างๆ ได้ทั้งผัก และเนื้อสัตว์

นำมาทอดแบบเทมปุระได้แบบไม่อั้น ตามประเภทของราคาที่เลือกมีทั้งหมด 2 ราคาคือ

AYA TEMPURA 1,100++ บาท มีรายการเทมปุระดังนี้

HISHOU TEMPURA 1,900++ บาท มีรายการเทมปุระดังนี้

ซึ่งรวมเครื่องดื่มเป็นชาข้าวบาเร่ย์ร้อน หรือเย็นที่ไม่มีคาเฟอีน เติมได้เรื่อยๆ ครับ

เมื่อสั่งรายการต่างๆ กับสตาฟแล้ว เชฟก็จะเริ่มทำให้ใหม่ๆ จานต่อจานให้เลยครับ

ซึ่งเชฟทุกคนต้องผ่านการเทรนจากญี่ปุ่น

ไม่ว่าจะเรื่องของอุณหภูมิ และใช้เครื่องทอดอย่าง Dr. Frie มาโดยเฉพาะ

ซึ่งเทมปุระนี่เป็นอาหารประจำชาติขอคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

สมัยก่อนจะทอดแบบแป้งหนาๆ แต่มาปัจจุบันก็มีการปรับให้แป้งบางลงแต่ยังมีความกรอบอยู่

ทอดออกมาได้เหลือขาวอ่อนๆ สวยงามเลยครับ

ส่วนด้านน้ำมันที่ใช้ทอดก็ใช้น้ำมันคาโนล่า

ซึ่งมีประโยนช์กว่าน้ำมันถั่วเหลือง

สำหรับด้านการทอดอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 180 องศาเซลเซียสครับ

ซึ่งใช้เวลาทอดไม่นาน แล้วนำขึ้นเลย จะได้เทมปุระที่ไม่อมน้ำมัน

จากนั้นก็ยังมีการสะเด็ดน้ำมัน

และว่างพักไว้ก่อนเสิร์ฟแปบนึงอีกด้วย

สำหรับคนที่ไม่ได้นั่งที่มุม Chef Table นั้น

เชฟก็จะมีการจัดจานสวยๆ ก่อนจะเสิร์ฟให้เราด้วยครับ

มาแล้วจานของเรา หน้าตาสวยงามน่ารับประทานมากครับ ซึ่งมีรายการดังนี้

เวลาทานเทมปุระแบบฉบับที่ชาวญี่ปุ่นทานกัน

นอกจากซุปที่มีไชเท้าฝน กับขิงบดที่ใช้จิ้มกับเทมปุระแล้ว

ยังสามารถทานพร้อมเกลือได้อีกด้วย ซึ่งทีนี่จะมีเกลือแบบพิเศษ 6 แบบ 6 สไตล์ให้เลือกทาน ซึ่งครั้งนี้มี

ซึ่งการจิ้มเกลือแต่ละแบบทานไปด้วยนั้นจะได้กลิ่นสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปครับ

แล้วก็มาถึงเวลาชิมกันแล้ว~ ต้องขอลองทานกับเกลือเสียก่อนเลย

โดยให้เราตักช้อนเล็กๆ ก่อนจะโรย หรือตักแยกไว้ค่อยจิ้มเอาก็ได้ ซึ่งด้านรสชาติก็จะมีความเค็มของเกลือ และกลิ่นอ่อนๆ ของเกลือแต่แบบอยู่ แต่ก็เข้ากันกับเทมปุระแปลกๆ แต่อร่อยดี

ส่วนจิ้มกับซุปเองก็ดีไม่น้อยครับ เพราะซุปจิ้มจะมาแบบร้อนๆ ให้จิ้มกับเทมปุระกรอบๆ หอม หวานอ่อนๆ

ส่วนเด็กๆ กินเปล่าๆ ก็ถูกใจกันไม่น้อยครับ

สั่งจานที่ 2 ก็มามากแล้ว มากมายด้วยผัก กระเจี๊ยบ หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดหอม รากบัว และทะเล

ทั้งหอยเชลล์ ซึ่งสด และหั่นมาชิ้นพอดีคำ

ปลาแซลมอนเด็กๆ ชอบจัดไปอีกแล้ว

ปลาเนื้อขาวสดมากๆ

ปลาหมึกขาวเด้งๆ

ถัดมาก็มีต้องสั่งซ้ำกับกุ้งลายเสือ และลองของใหม่คือปลาไหลทะเล กับชีสกามองแบร์ของโปรด

ชีสกามองแบร์เทมปุระก็หอม ยืด อร่อยมากๆ แนะนำให้ทานเปล่าๆ เลยครับ ไม่ต้องจิ้มซุป หรือเกลือ

ปลาไหลทะเลมีกลิ่นของปลาไหลชัดเจน แต่ไม่คาวนะครับ เนื้อเด้งเอกลักษณ์ของปลาไหล และสด

ขาปูหิมะก็สั่งซ้ำอีก เพราะอร่อยเนื้อแน่นเป็นชิ้นเป็นอัน

มีภาพเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าดีขนาดไหน

เห็ดหอมเทมปุระ

ของโปรดหลานชายครับ

นอกจากนนี้ใครใช้บริการ TEMPURA ORDER BUFFET ทั้ง 2 ราคา

สามารถตักอาหารจากไลน์บุฟเฟ่ต์ที่เรียกว่า “โอบันไซ” หรือ “เครื่องเคียง” ต่างๆ ได้ไม่อั้น

ซึ่ง Side dish ต่างๆ จะเป็นสไตล์อาหารพื้นบ้านของชาวเกียวโตในญี่ปุ่นแท้ๆ

หลากหลายรายการ เช่น สลัด ซูชิ ข้าวแกงกะหรี่ ซุปมิโซะ ผัดผักสไตล์ญี่ปุ่น

โอเด้ง หม้อไฟ ของทอด ผักดอง และอื่นๆ

แต่สำหรับใครที่อยากทานแค่บุฟเฟ่น์โอบันไซเขาจะมี Osouzai Buffet 580++ บาท ให้บริการด้วย

หรือสำหรับสายแข็ง อยากทานอาหารนิดๆ หน่อยๆ พร้อมแอลกอฮอล์ จะมี Banshaku Set 480++ บาท คือ ตักโอบันไซได้ 1 จาน 4 รายการ เสิร์ฟพร้อมสาเก หรือโชจู หรือเบียร์ 2 แก้วครับผม

ในไลน์อาหารวันนี้ก็จะมีโซบะเย็น / Zaru Soba

โรยด้วยแป้งทอดจากเทมปุระด้วย

เครื่องเคียงเป็นผักในถ้วยเล็กๆ / Side Dishes

สลัดผักสด / Salad

น้ำสลัด / Salad Dressing

สลัดทูน่า / Tuna Salad

ผัดรากบัว / Stir Fried Lotus Root Japanese Style

และผัดผักสไตล์ญี่ปุ่่นต่างๆ

ผักมะระ / Stir Fried Bitter Melon Japanese Style

เมนูญี่ปุ่นอื่นๆ

ผัดเส้นอุด้ง / Udon

ไก่ย่าง / Grilled Chicken

ผัดมะเขือม่วง / Stir Fried Egg Plant Japanese Style

ผัดหมู / Stir Fried Pork Japanese Style

โคร็อกเกะมันบด / Korokke

ถั่วแระญี่ปุ่น / Edamame

ซูชิ / Sushi

โอเด้งที่อร่อยมากๆ / Oden

ผักดองต่างๆ ที่เป็นกับแก้มไว้แก้เลี่ยน / Assorted Condiment

ซอสมัสตาร์ดทานคู่กับโอเด้ง / Mustard Sauce

เมนูหม้อไฟไข่ / Egg Hot Pot Japanese Style

และหัวแซลมอน / Salmon Head Hot Pot Japanese Style

มีแซลมอนที่ไหน

เสร็จเด็กๆ หมดจ้า

แต่อาหารยังไม่หมดยังมีอีก

ซุปมิโซะ / Miso Soup

พร้อมทั้งสาหร่าย เต้าหู้ และต้นหอมให้เลือกใส่ด้วย / Assorted Condiment

แน่นอนว่าเสร็จๆ อีกล่ะเพราะของโปรดของเขานั้นเอง

และเมนูพิเศษมากๆ ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ ข้าวแกงกะหรี่ผัก ที่กลมกล่อมละมุนมากมาย!!!!!

โดยใช้ข้าวจากจังหวัดนิงาตะเป็นข้าวอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะครับ / Niigata rice = No.1 Rice in Japan

มาพร้อมแกงกระหรี่ผักรสชาติละมุน กลมกล่อมสุดๆ มีให้ไม่อั้นเลย ภพ จัดไปไหลายจานอยู่!!! / Japanese Curry with Vagetables

ส่วนใครที่เป็นสายแข็งอยากดื่มเหล้า สาเก โชจู หรือเบียร์ แอลกอฮอล์ต่างๆ แล้วจะก็

เขาก็จะมีบริการให้เช่นกันนะครับ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามชนิดแต่ละเครื่องดื่ม

ซึ่งแน่นอนว่าเป็นห้องอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ต้องแนะนำให้เป็น “สาเก” ครับ

ซึ่งสาเกเย็นๆ จะเสิร์ฟมาให้แก้วที่เข้ากับบรรยากาศสวยๆ เก๋ๆ แบบนี้เลย

และของแนะนำสาเกสุดพรีเมียม “KikuSui” สาเกที่หมักมาจากข้าวจากจังหวัดนิงาตะตัวเดียวกันกับที่ทานกับข้าวแกงกะหรี่นั้นล่ะครับ

เทเสิร์ฟล้นๆ กันไปเลยครับ~

ซึ่งการันตีความพรีเมียมรสชาติสาเกไม่ขมเลยล่ะครับ

แต่ก็ไม่ออกหวาน ดื่มแล้วรู้สึกเย็นๆ นัวๆ มีความหนักของแอลกกอฮอล์ในปาก ฟินนิดๆ

ต่อมาเป็น “Mio” ตัวนี้ ภพ ชอบ และคิดว่าน่าจะถูกใจหลายคน

เป็นสปาร์คกิ้งสาเกที่จะมีฟองฟู แอลกอฮอล์น้อยๆ เบาๆ หวานอ่อนๆ ดื่มง่าย ไม่ไม่ขมเหมือนไวน์เลยล่ะ ไปทาง สปาย ไวน์คูลเลอร์

และที่ได้ชิมเป็นอย่างสุดท้ายคือ “เหล้าบ๊วย” ที่คนไทยรู้จักกัน หรือ “อุเมะชู” นั้นเอง

ตัวนี้มีความหวานแทรกกับเข้มข้นของบ๊วยที่หมักมามากๆ ค่อนข้างหนักเลยที่เดียวล่ะ ใครชอบหนักๆ ต้องจัดเลยครับ

และนอกจากให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็ยังมีบริการน้ำผลไม้สดๆ ต่างๆ อีกด้วย

ซึ่งของ ภพ สั่งเพิ่มเป็น “มะพร้าวปั่นสดๆ” ไม่ใส่น้ำเชื่อมเลยครับ

“น้ำแตงโมปั่น” ของคุณแม่

“น้ำส้มคั่นสด” ของเด็กๆ

เด็กๆ คู่กับน้ำส้มจริงๆ

น้ำเปล่าก็มีให้บริการ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ

และเมื่อจบคาวแล้วก็ยังมีของหวานรวมอยู่บุฟเฟ่ต์ให้ด้วยนะครับ

นั้นคือ “ซอฟเสิร์ฟรสเกลือทะเล” !!! / Dessert: Sea Salt Soft Serve

ปล. จริงๆ มีของหวานอีกตัวคือ “ไอศกรีมทอด” แต่วันที่ ภพ ของหมดอดชิมครับผม ฮื่อๆ เสียใจมาก~

มาพร้อมท้อปปิ้งสไตล์ญี่ปุ่น 6 ตัว คือ

จัดไปตามใจชอบ ใส่ได้ไม่อั้นเลยครับผม

แล้วก็สั่งไอศกรีมได้ไม่อั้นเช่นกัน คือ อร่อยมาก!!!

ภพ จัดไป 10 กว่าถ้วย~~~ ฟินมากๆ ครับ เพราะแม้จะเป็นซอฟเสิร์ฟรสเกลือก็ยังมีความหวานอยู่

แต่จะมีความเค็มเป็นรสแฝงอยู่ด้วย แม้แต่เด็กๆ ก็ได้ทานสบายๆ เลยครับ ชอบซะด้วยล่ะ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับบุฟเฟ่ต์เทมปุระที่แรก และที่เดียวในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ยังไงเพื่อนก็ไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กันสักครั้งนะครับ!


💵Price / ราคา

🔥Promotion : สมาชิกของ One Harmony ในเครือ Okura Nikko ได้ลด 10 %

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02 080 2111

🔥Promotion : Oneharmony Okura Nikko Member get 10 % OFF

For More Information 02 080 2111


⏱Time/เวลา

ทุกวัน 17.30 – 22.30 น.

Every day 17.30 – 22.30 Hrs.


📊My Score (In my opinion)

และข้อเสนอแนะ และปัญหาที่พบสำหรับห้องอาหาร (ไม่มีเจตนาในการทำให้เสียเครดิตแต่อย่างใด)
Suggestions and problems found for the restaurant. (DO NOT for DISCREDIT)

The Food ⭐⭐⭐+

อาหารคุณถาพดี สด ใหม่ เสิร์ฟร้อนๆ ตัวเทมปุระแนะนำให้ลองทานทุกรายกายเลย ซึ่งจะสั่งซ้ำ หรือไม่แล้วแต่ชอบเลยครับ เพราะวัตถุดิบดี ผักหวาน กรอบ เนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ให้รสดี นำมาทอดก็ได้รสชาติที่ดีตามไปด้วย ส่วนในไลน์โอบันไซเป็นเมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่นทั้งหมด ถ้าใครชื่นชอบล่ะก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ (ภพเองก็ชอบ) เพราะเป็นเมนูแบบพื้นบ้านที่หาทานไม่ค่อยได้ในประเทศไทย สุดท้ายก็มีของหวาน และชาปิดท้ายให้ด้วย

Note:

-โดยส่วนตัวเทมปุระแนะนำ ขาปูหิมะ กุ้งลายเสือ ปลาชนิดต่างๆ ผักต่างๆ และชีส
-ห้ามพลาดเด็ดขาดเน้นๆ เลยกับข้าวแกงกะหรี่ผัก!!! อยากไปกินอีกเยอะๆ เลยครับ
-อาหารในไลน์โอบันไซส่วนตัวคือชอบครับ โดยเฉพาะโอเด้ง
-ซอฟเสิร์ฟคือโคตรดี~ อยากกินอีก~

The Atmospheres ⭐⭐⭐⭐+

บรรกาศดีมากๆ สวย ทันสมัย สไตล์ญี่ปุ่น โปร่ง บรรยากาศชิลล์ๆ โทนสีเหลืองทองดูหรู และอบอุ่น ไม่อึดอัด แม้ห้องไม่กว้างมาก แต่มีกระจกให้มองทะลุผ่านได้ ส่วนตัวชอบบรรยากาศที่นั่งตรงบาร์มากๆ เลยละครับ มันเงียบสงบ แล้วก็รู้สึกเป็นส่วนตัวแม้จะเป็นจุดที่เปิดโล่งใครจะใช้บริการก็ได้ก็ตาม ด้านห้อง VIP ก็สะดวกสบายเป็นส่วนตัวมากๆ ครับ

The Service ⭐⭐⭐⭐+

ไม่เสียงชื่อที่เป็นโรงแรมญี่ปุ่นเช่นเคยครับ การบริการดีมากๆ ทั้งการต้อนรับ และความใส่ใจ ถามไถ่ตลอดการใช้บริการเลยล่ะครับ ทั้งแนะนำอาหาร และเชิญชวน แนะนำเครื่องดื่ม แนะนำอาหาร และไลน์อาหาร มีใจริการ สุขภาพ ยิ้มแย้ม แจ่มใส เคลียร์จานเก็บโต๊ะ และเสิร์ฟอาหารค่อนข้างไว สำหรับในไลน์อาหารก็มีการเติมสม่ำเสมอ

The Worthiness ⭐⭐⭐⭐

ครั้งนี้ขอให้กลางๆ ไว้ครับเนื่องจากเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีความเฉพาะทางสูง คืออย่างคุณพ่อผมท่านทานอาหารญี่ปุ่นไม่ค่อยจะเป็นจึงไม่ค่อยได้ทาน รวมถึงพวกของทอดเองก็ด้วย จึงเหมาะกับคนที่ชอบจริงๆ เพราะราคาค่อนข้างสูงทั้ง 2 ประเภทบุฟเฟ่ต์เทมปุระ แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ครั้งนึงที่ได้มาจึงอยากให้เพื่อนๆ มาลองกันสักครั้งครับผม

Note:

-สมาชิกของ One Harmony ในเครือ Okura Nikko ได้ลด 10 %


ขอบคุณที่ติดตามครับผม

Thank you for enjoying my blog!

World’s Delight เพราะความสุขชื่อมโยงคน

Because People Can Be Connected By Good World.

————————————————————————————————

ทุกคนสามารถติดตาม/Please Follow

World’s Delight ช่องทางอื่นได้ที่

World’s Delight

Facebook

Readme

Youtube

Instragram

Twitter

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ ซึ่งคนอื่นๆอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปตามวันเวลาที่ไปใช้บริการ

#ภพความสุข #WD #Worldsdelight

Exit mobile version